เบบี้ บูมเมอร์เป็นผู้นำในตลาดการต่อต้านความชรา

ประชากรที่เกิดระหว่างปี 1946 – 1964 นั้นมีจำนวนกว่า 450 ล้านคนทั่วโลก และเป็นประชากรในยุค เบบี้ บูม ซึ่งถูกเรียกว่า เบบี้ บูมเมอร์ (ที่มา MIT AgeLab)

กลุ่มคนอายุมากกว่า 50 ปี คือกลุ่มที่เพิ่มจำนวนไวที่สุดในกลุ่มประชากรโลกและคาดว่าจะมีค่าคาดเฉลี่ยอายุขัยสูงสุดเป็นประวัติการณ์

การศึกษาหนึ่งได้ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้คนสามารถมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปีหรือมากกว่าในปี 2050 ในสหรัฐ อเมริกาจะมีประชากรที่มีอายุ 50 ปี เพิ่มขึ้นทุกๆ 7 วินาที อและในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ ประชากร 50 % ของยุโรปจะมีอายุ 65 ปีและ 65 ปีขึ้นแ ในอิตาลี่ จำนวนผู้เกษียณอายุจะมีมีกกว่าจำนวนแรงงานในปี 2030 ในปี 2050 ค่าอายุเฉลี่ยในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 50 ปี (ที่มา MIT AgeLab) และในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีประชากรเบบี้ บูมเมอร์อยู่กว่า 20 ล้านคน และเป็นผู้ถือทรัพย์สินของชาติกว่า 805% (ที่มา BBC) สถิติล่าสุดระบุว่าญี่ปุ่นมีประชาการที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปมากกว่า 36,000 คน ในประเทศในภูมิภาคเอเชียเปซิฟิค จำนวนประชากรที่มีอายุ 65 ปี และมากกว่า 65 ปี มีกีเพิ่มจำนวนขึ้น ไวเป็นสองเท่าของประชากรในสหรัฐอเมริกา และในทวีปยุโรป

“อายุของคนวัยชรา” ได้ถูกเปลี่ยนไปจากเดิมในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากว่า ผู้คนที่มีอายุ 50 – 64 ปี นั้นยังคงกระฉับกระเฉง (หรือกระฉับกระเฉงขึ้น) เหมือนกับตอนพวกเขายังหนุ่มสาว ในความเป็นจริง เหล่าบูมเมอร์เป็นเจ้าของกิจการสถานออกกำลังกายและสถานดูแลสุขภาพ และยังมีความคิดที่ว่าสถานออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ 79% ของเหล่าบูมเมอร์คิดว่า เวลานี้เป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องกระฉับกระเฉงขึ้นและมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆมากขึ้น